‘Plant Based‘ เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ แถมใครต่อใครยังบอกว่าดีต่อเราและโลกอีกด้วย วันนี้โว้กบิวตี้จึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับอาหารชนิดนี้ให้มากขึ้นว่าจริงๆ แล้ว Plant Based คืออะไร? ดีต่อเราและโลกจริงหรือไม่? และเหมาะกับใครบ้าง
Plant Based คืออะไร?
Plant Based คือ การรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชและถั่วต่างๆ เป็นหลัก แต่สำหรับบางคนอาจยังสามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้ในปริมาณเล็กน้อย (สัดส่วนไม่เกิน 5% ของอาหารในจานนั้น) เพราะหัวใจของการรับประทาน Plant Based คือการเลี่ยงหรือลดการรับประทานเนื้อสัตว์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะแตกต่างกับอาหารเจและมังสวิรัติตรงที่อาหารทั้ง 2 ประเภทนี้จะไม่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์เลย
ประโยชน์ของการรับประทาน Plant Based Food
- ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากอาหารที่รับประทานเข้าร่างกายล้วนมาจากพืชซึ่งมีใยอาหารอยู่มาก
- ช่วยลดน้ำหนักได้ดี รวมถึงปริมาณของไขมันและคอเลสเตอรอลก็ลดลงด้วยเช่นกัน
- ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้ายต่างๆ ที่มาพร้อมกับการรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม
กิน Plant Based Food ก็ได้สารอาหารครบถ้วน!
หลายคนอาจเข้าใจว่าการงดเนื้อสัตว์และหันมารับประทาน Plant Based Food อาจทำให้เสี่ยงเกิดภาวะขาดสารอาหารซึ่งไม่จริงเพราะการรับประทาน Plant Based Food ไม่ได้หมายถึงการกินเพียงผักใบเขียวเท่านั้น แต่ยังมีผลไม้ เห็ด ถั่ว และธัญพืชมากมายที่ให้ทั้งพลังงาน โปรตีน ไขมันดี วิตามิน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดรตแบบครบถ้วนไม่ต่างจากการบริโภคเนื้อสัตว์เลย แถมยังดีต่อร่างกายมากอีกด้วย
Plant Based Food ควรรับประทานเมื่อไหร่? เหมาะกับใครบ้าง?
เราสามารถรับประทาน Plant Based Food ได้ทุกวัน เหมือนการรับประทานอาหารตามปกติของเราได้เลย และสามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำการรับประทานอาหารที่ดีและเหมาะกับร่างกายของตัวเองมากที่สุดก่อน
การรับประทาน Plant Based Food ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แถมยังดีต่อเราและโลก ซึ่งในปัจจุบันก็มีอาหาร Plant Based Food สำเร็จรูปมากมายวางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาเก็ต สำหรับใครที่อยากหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการกิน Plant Based Food อาจเริ่มจากการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลงก่อนและเน้นการกินผัก ผลไม้ ธัญพืช และถั่วให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวและไม่ทำให้เรารู้สึกโหยเนื้อสัตว์มากจนเกินไป
Plant-based Food ก็คือ อาหารทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภค หรือผู้ที่ต้องการ งด เลี่ยง ลดการทานเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และผู้ที่ต้องการทานอาหารเพื่อสุขภาพ อย่างที่ทุกคนรู้ว่าจริงๆ แล้ว มนุษย์ มีระบบย่อยและดูดซึมอาหารที่เหมาะกับการกินพืชผักมากกว่าการกินเนื้อสัตว์ ซึ่งอาหาร Plant-based Food ส่วนมากจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ที่ทำมาจากพืช ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ เห็ด เมล็ดพืช ธัญพืช และพืชตระกูลถั่ว เป็นส่วนประกอบหลักอย่างน้อย 95% และที่สำคัญคือต้องไม่มีเนื้อสัตว์ผสม (ในบางผลิตภัณฑ์อาจมีผสมอยู่บ้างในปริมาณที่น้อยมาก) เน้นการได้โปรตีนจากพืช นำมาแต่งสี และกลิ่น เพื่อให้มีรสชาติ และรสสัมผัสที่มีความคล้ายกับเนื้อสัตว์มากที่สุด
- ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ทำให้ย่อยง่าย
- มีพืชเป็นส่วนประกอบหลักอย่างน้อย 95%
- ปราศจากคอเลสเตอรอล ช่วยลดอัตราการเกิดโรคที่เกี่ยวกับไขมัน
- ไม่ใช่พืช GMO (การตกแต่งทางพันธุกรรม) ปลอดภัยต่อร่างกาย
- ไม่มีการฉีดฮอร์โมน
Plant-based Food กับ Vegan ต่างกันยังไง ?
การทาน Plant-based Food จะเป็นการงดเว้น หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมไปถึงเครื่องดื่มด้วย แต่เป็นเพียงการเลี่ยง ไม่ได้เป็นการห้าม สำหรับ Vegan (วีแกน) คือการทานอาหาร ที่งดเว้นการทานเนื้อสัตว์ คล้ายกับการกินเจ แต่จะเน้นไปที่การงดเว้นเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียว ยังคงสามารถทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อย่าง ไข่ นม เนย และชีสได้ และ Vegan จะมีความเคร่งครัดในเรื่องของการใช้ข้าวของเครื่องใช้เครื่องอุปโภค ที่ทำมาจากสัตว์ เช่น เสื้อขนสัตว์ รองเท้าหนัง โซฟาหนัง กระเป๋าหนัง สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับชาว Vegan สำหรับใครที่อยากเริ่มทานอาหาร Plant-based Food ก็สามารถเริ่มได้เลย ทานได้ทุกเพศทุกวัย อาจจะเริ่มจากอาทิตย์ละ 1 วัน แล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องอย่าลืมเรื่องการล้างทำความสะอาดของพืชผักที่จะทำมาใช้ทาน เพราะอาจจะมีสารพิษปนเปื้อนได้ และอย่าลืมรักษาสมดุลของสารอาหารในร่างกาย และด้วยความที่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ Plant-based Food ในท้องตลาดเพิ่มมากขึ้น จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของรสชาติ และความอร่อยเลยค่ะ